หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหรือการดูแลลูกน้อยอย่างหนักมาตลอดทั้งวัน การพักผ่อนเพื่อเพิ่มพลังให้ร่ายกาย คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้นอนทิ้งตัวนอนลงบนที่นอนนุ่มๆ ได้หลับสนิทยาวนานตลอดทั้งคืน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่นแจ่มใสพร้อมรับมือกับงานหรือลูกน้อยในเช้าวันถัดไป แต่บ่อยครั้งที่แม้จะเหนื่อยขนาดไหนหรือง่วงนอนมากแค่ไหน พยายามข่มตานอนอย่างไรก็ยังไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิท ปัญหาต่างๆเหล่านี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟมากเกิดไปในช่วงเวลากลางวัน ความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน หรือการวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ แต่อีกหนึ่งสามาเหตุที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปคือ ชุดผ้านอนที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจจะทำให้นอนไม่หลับ หรือหลับได้ไม่สนิท วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆในการเลือกผ้าปูที่นอนเพื่อการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ ยาวนานตลอดทั้งคืน ด้วยสัมผัสพิเศษที่นุ่มลื่น เย็นสบาย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เย็นสบาย จะเป็นชุดผ้าปูที่นอนแบบไหน ไปดูกันเลยค่ะ
ผ้าปูที่นอนควรมีขนาดพอดีกับเตียงที่นอน
ขนาดมาตรฐานของที่นอนในประเทศไทย จะมีอยู่ 3ขนาด คือ 3.5ฟุต (Single size), 5ฟุต (Queen size) และ 6ฟุต (King size) แต่ขนาดที่โรงแรมโดยส่วนใหญ่ใช้โดยทั่วไปจะเป็นขนาดใหญ่พิเศษ 7ฟุต ซึ่งต้องสั่งทำเป็นพิเศษ นอกจากขนาดของที่นอนแล้วความสูงของที่นอนก็ยังจำเป็นที่ต้องรู้ด้วย โดยมาตรฐานทั่วไปแล้ว ที่นอนจะมีความสูงอยู่ที่ 8นิ้ว เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณต้องการที่จะสั่งซื้อผ้าปูที่นอนใหม่ ควรที่จะต้องแจ้งรายละเอียดต่างๆเหล่านี้กับกับพนักงานทราบก่อนสั่งซื้อด้วยนะคะ เพราะหากถ้ามีขนาดใหญ่เกินไปกว่าที่นอน ก็จะมีปัญหายับย่น ไม่สวยงาม และนอนหลับไม่สบายค่ะ
ผ้าปูที่นอนที่มีเนื้อผ้าต่างกัน ก็จะให้ความรู้สึกเมื่อสัมผัสแตกต่างกัน
ผ้าปูที่นอนจากเส้นใยธรรมชาติ 100%
เส้นใยธรรมชาติที่นำมาทอเป็นผ้าปูที่นอน มีทั้งจากเส้นใยจากฝ้าย, เส้นใยจากไหม และเส้นใยจากต้นไผ่ แต่ที่นิยมกันจะเป็นเส้นใยจากฝ้าย หรือที่เรียกกันว่าผ้าคอตตอน
คุณสมบัติที่โดดเด่นของชุดเครื่องนอนผ้าคอตตอน คือ การถ่ายเท ระบายอากาศได้ดี ยิ่งซักยิ่งนุ่ม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการใช้งานในหน้าร้อน ด้วยสัมผัสที่นุ่มของผ้าคอตตอนจะช่วยให้คุณนอนหลับสบาย
ผ้าปูที่นอนจากผ้าซาติน
เนื้อผ้าชนิดนี้จะมีความมันวาว ให้ความรู้สึกหรูหราและดูโรแมนติก ตัวผ้ามีน้ำหนักและค่อนข้างทิ้งตัว ข้อดีของผ้าซาตินคือ ผิวสัมผัสที่มีความลื่น และเย็นสบาย แต่เหมาะสมหรับใช้เป็นผ้าคลุมเตียงหรือผ้าห่มมากกว่าการทำใช้ปูนอน
ผ้าปูที่นอนจากผ้า CVC
เป็นผ้าเนื้อผสมระว่าผ้าฝ้ายและผ้าเส้นใยโพลีเอสเทอร์ ในอัตราส่วน 50:50 หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าผ้าสักหลาด มีคุณสมบัตินุ่มและทนทาน ลักษณะใกล้เคียงกับผ้าฝ้าย แต่ระบายกาศได้ไม่ดีเท่ากับผ้าฝ้าย 100% เนื่องจากเป็นผ้าเนื้อผสม ข้อดีของผ้าชนิดนี้คือมีราคาถูก ให้ความอบอุ่นได้ดี
ผ้าปูที่นอนจากผ้าฝ้ายผสมซาติน
ผ้าปูที่นอนที่ได้จากการผสมผสานระหว่างผ้าฝ้าย 100% ทอสลับกับริ้วของผ้าซาตินหนา 1 นิ้ว คุณสมบัติของผ้าจะให้ความรู้สึกนุ่มสบายเมื่อสัมผัส ยิ่งซักยิ่งนุ่มตามจุดเด่นของผ้าฝ้าย ทั้งยังทนทาน และมีลวดลายสวยงาม แต่ราคาจะสูงกว่าผ้าฝ้ายแท้ 100% จึงนิยมใช้เป็นผ้าปูที่นอนสำหรับโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจที่พักทั้งหลาย
จำนวนเส้นใยของผ้าปูที่นอน
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้ผ้าปูที่นอนนั้นมีความละเอียดและนุ่มลื่นคือจำนวนเส้นใยในการทอ ยิ่งมีจำนวนเส้นใยต่อตารางนิ้วมากขึ้นเท่าไหร่ ความละเอียดและนุ่มลื่น ก็จะมากขึ้นเท่านั้น แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจำนวนเส้นใยต่อตารางนิ้วจะต้องมีจำนวนที่เหมาะสม และเส้นใยที่มีคุณภาพ เพราะหากผลิตจากเส้นใยที่ไม่คุณภาพแล้ว ทอด้วยเส้นใยที่มีปริมาณมากแล้ว ผ้าปูที่นอนก็จะสากและแข็งกระด้างไม่เหมาะสมกับการนอน ตามปกติแล้วเนื้อผ้าที่คงทนและให้ผิวสัมผัสนุ่ม เย็นสบาย จะอยู่ที่ 300-600 เส้นต่อตารางนิ้ว
รู้เทคนิคการเลือกผ้าปูที่นอนกันแล้ว ใครที่กำลังหาชุดผ้าปูที่นอนในราคาที่เหมาะสม อย่าลืม Thewonderfuldays ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น กันน้ำ ผลิตจาก Cotton Silk ทอละเอียด 500 เส้นด้าย เป็นหนึ่งในตัวเลือกเพื่อการนอนหลับอย่างมีคุณภาพในทุกค่ำคืนของคุณนะคะ https://bit.ly/wonderfuldaysbedsheet