fbpx
สร้างบรรกาศห้องนอนให้น่านอน หลับสนิท หลับฟิน ด้วยสีและลายจากผ้าปูที่นอน

สร้างบรรกาศห้องนอนให้น่านอน หลับสนิท หลับฟิน ด้วยสีและลายจากผ้าปูที่นอน

เนื่องจากสีและลายของผ้าปูที่นอน ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ทั้งในด้านจิตใจและด้านพลังงาน ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในการเลือกผ้าปูที่นอนกัน

https://bit.ly/wonderfuldaysbedsheet

ผ้าปูที่นอนสีโทนร้อน เช่น สีแดง, สีเหลือง,สีส้ม ฯลฯ ทำให้มีความรู้สึกกระฉับกระเฉงหลังจากตื่นนอน และยังสร้างความอบอุ่น ช่วยในการไหลเวียนเลือด แต่ถ้าใช้สีโทนร้อนที่ฉูดฉาดจนเกินไปก็อาจทำให้พลังงานถูกกระตุ้นมากจนนอนไม่หลับได้

ผ้าปูที่นอนสีโทนเย็น เช่น สีชมพูอ่อน, สีฟ้าอ่อน,สีม่วงอ่อน ฯลฯ สีโทนนี้จะให้ความรู้สึกสงบเย็นที่สุด สร้างรู้สึกผ่อนคลายในจิตใจ เป็นโทนสีที่เหมาะกับห้องนอนมากที่สุด โดยเฉพาะสีฟ้า เนื่องจากเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย นอกจากนั้นยังเป็นสีโปรดของผู้คนทั่วโลกมากกว่าครึ่ง

ผ้าปูที่นอนที่มีลวดลาย ห้องที่ดูเรียบๆ หากเลือกใช้ผ้าปูที่นอนที่มีลวดลาย จะช่วยสร้างความโดดเด่นขึ้น ในขณะเดียวกัน หากเป็นห้องที่มีผนังวอลเปเปอร์ลวดลายต่างๆ และเฟอร์นิเจอร์ที่ดูมีลูกเล่นอยู่แล้ว ผ้าปูที่นอนสีพื้นแบบเรียบๆ ก็ช่วยให้ห้องดูสบายตามากขึ้นได้ค่ะ

https://bit.ly/wonderfuldaysbedsheet

จัดห้องนอนตามฮวงจุ้ยอย่างไง ให้รับทรัพย์แบบปังๆ ชีวิตดี!

จัดห้องนอนตามฮวงจุ้ยอย่างไง ให้รับทรัพย์แบบปังๆ ชีวิตดี!

ฮวงจุ้ย

บทความนี้จึงอยากเสนอ 5 วิธีปรับฮวงจุ้ยห้องนอน ให้รับทรัพย์แบบปังๆ ชีวิตดี! กันทุกคน ลองทำตามกันดูค่ะ

1. ตำแหน่งนอนห้อง

ตำแหน่งห้องนอนของเจ้าของบ้านควรอยู่ชั้นบนสุด ไม่ควรตั้งอยู่ที่ชั้นล่างสุดเพราะอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านคนอื่น ๆ กุมอำนาจมากกว่า หรือถ้าตัวบ้านมีมากกว่า 2 ชั้น อาจจะอยู่ชั้น 2 เป็นอย่างต่ำได้ และหากเป็นบ้านชั้นเดียว ห้องนอนของเจ้าของบ้านก็ไม่ควรตั้งอยู่หน้าบ้าน เพราะตามหลักจิตวิทยาการตั้งห้องนอนไว้ที่หน้าบ้านอาจไม่ปลอดภัยและการตั้งห้องนอนไว้บริเวณทางเข้าออกอาจรบกวนการพักผ่อนได้

2. ตำแหน่งและทิศของเตียงนอน

หัวเตียงนอนควรหันไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือจะดี เพราะมีแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้า ลมไหลผ่านเป็นระยะ ทิศที่ควรหลีกเลี่ยงคือทิศใต้หรือตะวันตก เพราะแดดจะสาดเข้ามาตลอดวัน รบกวนการนอน ส่วนตำแหน่งของเตียงภายในห้องนั้นก็สำคัญ การวางเตียงโดยหันหัวไปทางหน้าบ้าน ไม่สามารถมองเห็นประตูทางเข้าออกห้องได้อย่างสะดวกหรือแม้กระทั่งการวางเตียงโดยให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งชิดกับผนังนั้นไม่ใช่เรื่องดี ในทางฮวงจุ้ยก็ถือเป็นการดึงดูดพลังงานลบ ทำให้สุขภาพย่ำแย่และว้าวุ่นใจ

3. เตียงนอนดี ชีวิตดี

ในหลักฮวงจุ้ยการมีเตียงนอนจะช่วยส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของเจ้าของ วัสดุที่ใช้ทำเตียงควรเป็นไม้หรือไม่ก็ผ้าบุนวม ขนาดพอดี และหัวเตียงไม่ควรมีช่องว่างที่เยอะเกินไปและวัสดุที่ใช้ไม่ควรเป็นโลหะ เพราะช่องว่างที่เยอะจะส่งผลต่อพลังของเราที่ถูกกระจายตัวออกจากกันและโลหะให้พลังงานที่เย็นไม่เหมาะกับการเป็นเตียงนอน

4. สีผนังห้องนอน

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญต่อฮวงจุ้ยห้องนอนก็คือสีห้องนอน การเลือกนี้อาจกำหนดชีวิตคุณในช่วงนั้น ๆ ให้ดีหรือร้ายไปเลยก็ได้ ไม่ควรเลือกสีห้องนอนให้ออกเป็นโทนมืดหรือสีดำ เพราะไม่เพิ่มพลังให้แก่ชีวิต อารมณ์เศร้าหมอง อีกทั้งยังไม่มีชีวิตชีวา หรือการเลือกสีที่สว่างเกินไป อาทิ สีขาว ก็ไม่ดีเช่นเดียวกัน ในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าสีขาวล้วนจะเก็บพลังชีวิตไว้ไม่อยู่ แต่ในทางวิทยาศาสตร์สีขาวล้วนอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะนอนหลับไม่สนิท ฉะนั้นโทนสีที่แนะนำ ได้แก่  สีเขียวที่หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ สีฟ้าที่หมายถึงความสงบเยือกเย็น สีม่วงอ่อนหมายถึงความร่ำรวย สีชมพูหมายถึงความอ่อนโยน สีเบจและครีมที่หมายถึงความอบอุ่นค่ะ โดยทุกสีที่กล่าวมานั้นล้วนให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เย็นสบายตาทั้งสิ้น

5. การตกแต่งและการจัดห้องนอนที่ไม่ควรทำ

ตามหลักแห่งศาสตร์ฮวงจุ้ยแนะนำว่าไม่ควรนำตู้ปลามาไว้ภายในห้องนอน เพราะนอกจากจะทำให้ห้องนอนมีความชื้นมากเกินไปแล้วยังส่งผลให้พลังหยางในตัวเราอ่อนแอลง ส่วนรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ควรให้มีความโค้งมน เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่มีขอบเหลี่ยมเยอะไม่เพียงแต่อันตราย แต่ตามหลักฮวงจุ้ยยังส่งผลให้คนในบ้านทะเลาะ ใช้คำพูดรุนแรง เสียดแทงกันอีกด้วย 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเทคนิคการจัดห้องนอนตามฮวงจุ้ย ให้เหมือนซินแสมาแนะนำเอง อ่านจบแล้วก็ลองนำไปปรับใช้กับห้องนอนตามสไตล์ตัวเองกันดูนะคะ เพื่อความปัง และเพิ่มพลังงานบวกให้กับชีวิต😚 https://bit.ly/wonderfuldaysbedsheet

ใครที่เป็นภูมิแพ้ ลองสังเกตสิ่งของที่ใช้อยู่เป็นประจำดูมั้ย

ใครที่เป็นภูมิแพ้ ลองสังเกตสิ่งของที่ใช้อยู่เป็นประจำดูมั้ย

🌷เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีอาการผื่นคัน ไม่สบายตัว หายใจไม่ออก น้ำตาไหล น้ำมูกไหล คิดสงสัยไปต่างๆนานา ลองสังเกตตัวเองกันหน่อยมั้ย ว่าจริง ๆ แล้วอาจเกิดจากภูมิแพ้ ซึ่งสาเหตุของภูมิแพ้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย นอกจากกรรมพันธุ์แล้ว สิ่งแวดล้อมภายในบ้านก็มีส่วนสำคัญ ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า หรือผลิตภัณฑ์จากผ้า ผ้าห่ม ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน ฯลฯ สารพัดที่เราต้องใช้เป็นประจำทุกวัน ก็อาจเป็นสาเหตุภูมิแพ้ได้อย่างคาดไม่ถึง

✅วิธีป้องกันภูมิแพ้อย่างง่ายๆ เลยคือ พยายามทำความสะอาดผ้าปูที่นอนอยู่เสมอ ใช้ผ้าปูที่นอนที่มีประสิทธิภาพการกันไรฝุ่น ผ่านการรับรองจากสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ ซักทำความสะอาดอยู่บ่อยๆ สุดท้ายแล้วขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ให้สามารถเอาชนะภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ มีสุขภาพดีกันทุกคนนะคะ💕 https://bit.ly/wonderfuldaysbedsheet

https://bit.ly/wonderfuldaysbedsheet
สาเหตุสำคัญของการเกิดสิวที่หน้าและแผ่นหลัง

สาเหตุสำคัญของการเกิดสิวที่หน้าและแผ่นหลัง

สิว เป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจ ใครหลายคนโดยเฉพาะสาวๆ หลายคนมีปัญหาสิวขึ้นที่หน้า หรือที่แผ่นหลัง โดยสาเหตุที่เกิดสิวนั้นก็มีหลายสาเหตุ  ถ้าเรารู้สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ ก็จะสามารถรักษาสิวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่า ว่าสาเหตุที่เกิดสิวที่หลังนั้นมีอะไรบ้าง

  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่ระบายอากาศได้ไม่ดี ชุดนอน หรือชุดชั้นในที่สวมใส่ซ้ำทุกวัน

ผ้าที่มีเนื้อหนา หรือเนื้อผ้าแข็ง ผ้าใยสังเคราะห์ สาเหตุของการอับชื้น อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี ทำให้เกิดสิ่งสกปรก คราบเหงื่อ รูขุมขนอุดตัน หรือชุดนอน ชุดชั้นใน ที่เราต้องสวมใส่ และสัมผัสเป็นเวลานานต่อวัน การใส่ชุดซ้ำ ๆ กัน อาจทำให้เสื้อผ้าอับชื้น เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุหลักของสิวที่หลัง

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ล้างออกยาก

ไม่ว่าจะเป็นแชมพูหรือสบู่เหลวที่ล้างออกยาก ล้วนแต่จะทำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีต่าง ๆ ที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ อีกด้วย

  • นอนหลับสนิทไม่เพียงพอ

ชุดนอน หรือชุดชั้นในเป็นชุดที่เราต้องสวมใส่ และสัมผัสเป็นเวลานานต่อวัน การใช่ชุดซ้ำ ๆ กัน อาจทำให้เสื้อผ้าอับชื้น เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุหลักของสิวที่หลัง

  • ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวมที่ไม่สะอาด

อีกสาเหตุสำคัญของการเป็นสิวที่หน้า หรือที่แผ่นหลัง นั่นคือผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือปลอกผ้านวมที่ไม่สะอาด ปกติแล้วเราควรที่จะเปลี่ยนชุดเครื่องอย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือปลอกผ้านวมอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เนื่องจาก เนื่องจากในทุกๆวันเราต้องนอน และสัมผัสกับเครื่องนอนเหล่านี้ จึงทำให้เป็นแหล่งเป็นที่สะสมของเชื้อโรคและไรฝุ่น นอกจากสิวที่หน้าหรือที่หลังแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ ผื่นคันตามผิวหนังและลำตัวอีกด้วย

ถ้าคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสิวที่หน้า หรือแผ่นหลัง ที่ไม่หายเสียที ลองสังเกตชุดเครื่องนอนไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวม ที่สัมผัสกับผิวเราโดยตรง ทุกวันเป็นประจำ ว่าสะอาดเพียงพอหรือมีสิ่งสกปรกหรือไม่ ฉะนั้นการดูแลหรือเปลี่ยนชุดเครื่องนอนบ่อยๆก็เป็นสิ่งสำคัญ  หรือวิธีการที่ง่ายก็คือเปลี่ยนมาให้ชุดเครื่องนอนที่มีคุณสมบัติในการกันไรฝุ่น เพราะที่จริงแล้วปัญหาของการเป็นสิวที่ตัวนั้นแก้ได้ไม่ยากเลย เราแค่ต้องรู้ถึงสาเหตุ แก้ไขให้ตรงจุดและใช้ชุดเครื่องนอนที่มีคุณภาพ ปัญหาสิวที่ไหน ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป https://bit.ly/wonderfuldaysbedsheet

เคล็ดลับการซักผ้าปูที่นอนอย่างถูกวิธี!

เคล็ดลับการซักผ้าปูที่นอนอย่างถูกวิธี!

Thewonderfuldays ขอแนะนำเคล็ดลับการผ้าปูที่นอนอย่างถูกวิธี

ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือผ้านวม ปกติแล้วเราควรซักให้บ่อยครั้ง เนื่องจากในทุกๆวันเราต้องนอน และสัมผัสกับเครื่องนอนเหล่านี้ จึงทำให้เป็นแหล่งเป็นที่สะสมของเชื้อโรคและไรฝุ่น ถ้าเราซักอย่างถูกวิธีแล้ว เราจะสามารถฆ่าเชื้อโรค และสิ่งสกปรก แถมยังช่วยถนอมเนื้อผ้า ยืดอายุการใช้งานไปได้อีกนาน

1. ไม่ควรที่จะนาน ๆ ซักที

          ไม่ควรลืมใส่ใจเรื่องความสะอาด อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ระยะเวลาที่ไม่ควรเกิน 1เดือน เนื่องจากทุกครั้งที่นอน จะมี คราบเหงื่อไคล เซลล์ผิวจากตัวเรา รังแค และเศษผมหลุดออกมาบนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวม ทำให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกมากมาย

2. อย่าลืมตรวจดูคราบสกปรกเล็ก ๆ น้อย ๆ

          อย่าลืมที่จะตรวจสอบคราบสกปรกก่อนนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวมเข้าเครื่องซักผ้า เช่น คราบเครื่องสำอางค์ของสาว ๆ หากเจอคราบสกปรกให้กำจัดคราบนั้นให้เรียบร้อย หรือป้ายน้ำยาซักผ้าเฉพาะจุดที่สกปรกก่อนนำเข้าเครื่องซักผ้า เพราะจะช่วยให้คราบสกปรกเหล่านั้นหลุดออกได้ง่ายขึ้น

3. ไม่ควรซักผ้าปูที่นอนรวมกับผ้าชนิดอื่น

          หากซักผ้าปูที่นอน ไม่ควรนำเสื้อผ้าหรือผ้าขนหนูมาซักรวมด้วย เนื่องจากขณะที่เครื่องซักผ้าปั่น เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอาจเข้าไปม้วนอยู่ในผ้าปูที่นอน หรือขนจากผ้าขนหนูอาจไปติดผ้าปูที่นอนได้ ทำให้ผ้าปูที่นอนมีขนขลุย และไม่สะอาดเท่าที่ควร อีกทั้งโหมดการซักที่ต้องตั้งก็ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้น ควรแยกซักผ้าปูที่นอนออกจากผ้าชนิดอื่น ๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุด

4. ควรแบ่งซักเครื่องนอน ไม่ควรซักทุกอย่างในคราวเดียว

          การทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดี แต่หากนำเครื่องนอนทุกอย่างมาซักรวมกันในคราวเดียวก็อาจจะไม่ดี เพราะเครื่องซักผ้าจะแน่นจนเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพในการซักทำความสะอาดน้อยลงไป ดังนั้น ควรแบ่งซักผ้านวม และเครื่องนอนอื่น ๆ จะทำให้สะอาดกว่า

5. วิธีการใส่ผ้าปูที่นอนลงในเครื่องซักผ้า

          เพื่อให้น้ำยาซักผ้าเข้าทำความสะอาดเนื้อผ้าที่สกปรกได้อย่างทั่วถึง และช่วยให้เครื่องซักผ้ามีพื้นที่ในการปั่นมากขึ้น ควรม้วนผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวมให้มีขนาดเล็กลงก่อนใส่ลงในถังซัก

6. ควรซักผ้าปูที่นอนด้วยน้ำยาซักผ้า

          แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าแทนผงซักฟอก เพราะน้ำยาซักผ้าสามารถละลายน้ำได้ดีกว่าและไม่จับตัวเป็นก้อน ทำให้ผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวมสะอาดหมดจด ไม่ทิ้งคราบ

7. เลือกตั้งค่าโหมดการซักให้เหมาะสมกับชนิดผ้า

          ผ้าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและเนื้อผ้าที่ต่างกัน เพื่อรักษาผ้าไม่ให้ชำรุดเสียหาย หรือขาดก่อนเวลาอันควร ควรตั้งโหมดการซักผ้าให้แตกต่างไปตามชนิดของผ้า รวมถึงอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ซักผ้า ควรซักด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวม และปลอกหมอน แต่หากซักด้วยน้ำเย็น ก็จะช่วยเรื่องไม่ให้ผ้าเกิดรอยยังรอยย่น ในเรื่องของระยะเวลาในการปั่นก็มีผลต่อผ้าปูที่นอนเหมือนกันค่ะ หลายคนอาจคิดว่าปั่นนานหน่อย ผ้าจะสะอาดขึ้น แต่ความจริงแล้ว หากปั่นผ้าปูที่นอนนานเกินไปอาจทำให้ผ้าหดตัวได้ ดังนั้น ควรปั่นผ้าในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่เร็วและไม่นานเกินไป

8. เมื่อนำผ้าปูที่นอนออกจากเครื่องซักผ้า ควรสะบัดผ้าปูที่นอนก่อนนำไปตาก

  เพื่อไม่ให้ผ้าปูที่นอนยับ ปลอกผ้านวมจับตัวเป็นก้อน ควรสะบัดก่อนตาก เพื่อให้ผ้าปูที่นอนได้คลายตัว และควรนำผ้าผ้าปูที่นอนไปตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่น อีกทั้งยังทำให้ผ้านวมนุ่มขึ้นอีกด้วย