Thewonderfuldays ขอแนะนำเคล็ดลับการผ้าปูที่นอนอย่างถูกวิธี
ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือผ้านวม ปกติแล้วเราควรซักให้บ่อยครั้ง เนื่องจากในทุกๆวันเราต้องนอน และสัมผัสกับเครื่องนอนเหล่านี้ จึงทำให้เป็นแหล่งเป็นที่สะสมของเชื้อโรคและไรฝุ่น ถ้าเราซักอย่างถูกวิธีแล้ว เราจะสามารถฆ่าเชื้อโรค และสิ่งสกปรก แถมยังช่วยถนอมเนื้อผ้า ยืดอายุการใช้งานไปได้อีกนาน
1. ไม่ควรที่จะนาน ๆ ซักที
ไม่ควรลืมใส่ใจเรื่องความสะอาด อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ระยะเวลาที่ไม่ควรเกิน 1เดือน เนื่องจากทุกครั้งที่นอน จะมี คราบเหงื่อไคล เซลล์ผิวจากตัวเรา รังแค และเศษผมหลุดออกมาบนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวม ทำให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกมากมาย
2. อย่าลืมตรวจดูคราบสกปรกเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่าลืมที่จะตรวจสอบคราบสกปรกก่อนนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวมเข้าเครื่องซักผ้า เช่น คราบเครื่องสำอางค์ของสาว ๆ หากเจอคราบสกปรกให้กำจัดคราบนั้นให้เรียบร้อย หรือป้ายน้ำยาซักผ้าเฉพาะจุดที่สกปรกก่อนนำเข้าเครื่องซักผ้า เพราะจะช่วยให้คราบสกปรกเหล่านั้นหลุดออกได้ง่ายขึ้น
3. ไม่ควรซักผ้าปูที่นอนรวมกับผ้าชนิดอื่น
หากซักผ้าปูที่นอน ไม่ควรนำเสื้อผ้าหรือผ้าขนหนูมาซักรวมด้วย เนื่องจากขณะที่เครื่องซักผ้าปั่น เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอาจเข้าไปม้วนอยู่ในผ้าปูที่นอน หรือขนจากผ้าขนหนูอาจไปติดผ้าปูที่นอนได้ ทำให้ผ้าปูที่นอนมีขนขลุย และไม่สะอาดเท่าที่ควร อีกทั้งโหมดการซักที่ต้องตั้งก็ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้น ควรแยกซักผ้าปูที่นอนออกจากผ้าชนิดอื่น ๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุด
4. ควรแบ่งซักเครื่องนอน ไม่ควรซักทุกอย่างในคราวเดียว
การทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดี แต่หากนำเครื่องนอนทุกอย่างมาซักรวมกันในคราวเดียวก็อาจจะไม่ดี เพราะเครื่องซักผ้าจะแน่นจนเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพในการซักทำความสะอาดน้อยลงไป ดังนั้น ควรแบ่งซักผ้านวม และเครื่องนอนอื่น ๆ จะทำให้สะอาดกว่า
5. วิธีการใส่ผ้าปูที่นอนลงในเครื่องซักผ้า
เพื่อให้น้ำยาซักผ้าเข้าทำความสะอาดเนื้อผ้าที่สกปรกได้อย่างทั่วถึง และช่วยให้เครื่องซักผ้ามีพื้นที่ในการปั่นมากขึ้น ควรม้วนผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวมให้มีขนาดเล็กลงก่อนใส่ลงในถังซัก
6. ควรซักผ้าปูที่นอนด้วยน้ำยาซักผ้า
แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าแทนผงซักฟอก เพราะน้ำยาซักผ้าสามารถละลายน้ำได้ดีกว่าและไม่จับตัวเป็นก้อน ทำให้ผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวมสะอาดหมดจด ไม่ทิ้งคราบ
7. เลือกตั้งค่าโหมดการซักให้เหมาะสมกับชนิดผ้า
ผ้าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและเนื้อผ้าที่ต่างกัน เพื่อรักษาผ้าไม่ให้ชำรุดเสียหาย หรือขาดก่อนเวลาอันควร ควรตั้งโหมดการซักผ้าให้แตกต่างไปตามชนิดของผ้า รวมถึงอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ซักผ้า ควรซักด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวม และปลอกหมอน แต่หากซักด้วยน้ำเย็น ก็จะช่วยเรื่องไม่ให้ผ้าเกิดรอยยังรอยย่น ในเรื่องของระยะเวลาในการปั่นก็มีผลต่อผ้าปูที่นอนเหมือนกันค่ะ หลายคนอาจคิดว่าปั่นนานหน่อย ผ้าจะสะอาดขึ้น แต่ความจริงแล้ว หากปั่นผ้าปูที่นอนนานเกินไปอาจทำให้ผ้าหดตัวได้ ดังนั้น ควรปั่นผ้าในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่เร็วและไม่นานเกินไป
8. เมื่อนำผ้าปูที่นอนออกจากเครื่องซักผ้า ควรสะบัดผ้าปูที่นอนก่อนนำไปตาก
เพื่อไม่ให้ผ้าปูที่นอนยับ ปลอกผ้านวมจับตัวเป็นก้อน ควรสะบัดก่อนตาก เพื่อให้ผ้าปูที่นอนได้คลายตัว และควรนำผ้าผ้าปูที่นอนไปตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่น อีกทั้งยังทำให้ผ้านวมนุ่มขึ้นอีกด้วย